ร้านดังถูกทุบกระจก-วางเพลิงกลางดึก ผจก.สงสัยฝีมือคนเมา โมโหไม่ยอมให้เข้าร้าน
ซอย พุทธบูชา 36 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานดับเพลิง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบแสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมากภายในร้าน เป็นลักษณะอาคารบ้านเดี่ยว ปูน 2 ชั้น แสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากด้านในร้านดังกล่าวเป็นจำนวนมาก บริเวณชั้นล่างของตัวอาคาร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครจึงเร่งรัดจัดวางหัวจ่ายฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเร่งด่วนเพื่อระงับเหตุการณ์ดังกล่าวทันที ใช้เวลา 20 นาที เพลิงจึงสงบ แสงเพลิงหมดไปเหลือเพียงแต่กลุ่มควัน อาสาสมัครจึงทำการจัดอุปกรณ์เร่งระบายควันออกจากตัวอาคารเมื่อตรวจสอบจากภายในอาคารดังกล่าวพบความเสียหายบริเวณห้องโถงกลางชั้นล่างทั้งหมด แล้วยังตรวจสอบพบแกลลอนสีเขียวบรรจุน้ำมัน 6 ลิตร ตกอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดที่เกิดเหตุแล้วยังพบ ถุงแถบกาว ถุงแพ็คเสื้อ กับไฟแช็กสีเขียวตกอยู่ข้างๆด้วย คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุทำตกเอาไว้
เบื้องต้นจากการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการปิดล้อมพื้นที่บริเวณโดยรอบเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในอาคารดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย
จากการสอบถาม น.ส.ฉวีวรรณ อายุ 42 ปี เป็นผู้จัดการร้าน บอกว่า ร้านปิดเที่ยงคืน ตนกลับออกจากร้านไปตอนประมาณตี 2 ปกติตนจะนอนพักที่ร้าน แต่วันนี้ตนมีธุระ จึงกลับบ้านแทน แล้วมีคนโทรมาบอกตนว่าไฟไหม้ จึงรีบกลับเข้ามาที่ร้าน แต่จะโทรบอกแม่ครัวให้มาดูก่อน เพราะเขาอยู่ใกล้กว่า พอมาถึงก็เห็นว่ากู้ภัยดับเพลิงมาดับแล้วถามจากแม่ครัวก็บอกว่า ไฟเริ่มไหม้ที่เก้าอี้โซฟา แต่มีกระจกด้านข้างแตกด้วย ก่อนหน้านี้มีผู้ชายคนนึง ลักษณะเมามาจากไหนไม่รู้มานั่งโต๊ะด้านนอกร้าน พนักงานก็เข้าไปถามว่าจะรับเครื่องดื่มอะไรไหม แต่เขาก็ไม่สั่งอะไรเลย มานั่งตามประสาคนเมา แต่มีลูกค้าโต๊ะอื่นรำคาญ จึงได้เชิญเขาออกไป แต่ก็ไม่ออก จนร้านปิด เขาก็เดินออกไป สักพักเขาก็เดินกลับเข้ามาอีก จนตนจะกลับออกจากร้านแล้ว ก็เห็นเดินจะเข้ามาอีก แฟนตนจึงยื้อยุดเพื่อไม่ให้เขาเข้ามาในร้านอีก แต่ด้วยความที่เขาเมา จึงเซล้มลง แล้วเขาก็ลุกเดินไป ตนจึงยืนดูสักพักนึงว่าไปจริงแล้ว สังเกตเห็นกระเป๋าสตางค์ตกอยู่บริเวณที่เขาล้ม จึงหยิบขึ้นมาเปิดดู แล้วก็เลยถ่ายบัตรประชาชนขึ้นมาถ่ายป้องกันไว้ก่อน แล้วก็โยนวางไว้ตรงต้นไม้หลังป้าย สักพักเขาก็เดินย้อนกลับมาเก็บคืนไปจริงๆ ตนจึงกลับบ้านไป แล้วพอเกิดเรื่องตนจึงสงสัย ลำดับเหตุการณ์มาปะติปะต่อกันแล้วสงสัยว่าน่าจะสาเหตุนี้ เป็นไปได้ไหมที่เขาอาจจะโมโหและทางด้าน น.ส.อวิภาวดี อายุ 21 ปี พนักงานส่งของร้านข้างๆ บอกว่า ตนมาส่งของกับแฟน ประมาณตี 3 เกือบตี 4 พอมาถึงก็ลงรถไป ได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงเดินมองดูรอบใกล้ๆ แต่ก็ไม่เห็นจึงขึ้นไปนั่งรอบบนรถ แล้วแฟนตนก็ขนของลง เห็นไฟไหม้ในร้าน จึงมาเรียกตนลงไปดู ก็เห็นไฟไหม้จากข้างในร้าน และเดินดูรอบๆร้านก็เห็นตรงข้างร้านมีประตูกระจกแตกอยู่แล้ว ใต้ต้นไม้มีถังน้ำมันกำลังติดไฟอยู่ ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพราะปกติจะมีคนนอนในร้าน ตนกลัวจะเป็นอันตรายจึงรีบโทรแจ้งให้มาช่วยเหลือเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดภายในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ยังสรุปสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งถึงจะสรุปได้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกันแน่ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมา
สอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
