สลด หนุ่มเพิ่งซื้อรถบิ๊กไบค์ ร่วมทริปครั้งแรก แซงสิบล้อ-พุ่งชนท้ายกระบะ ดับสยอง
หนุ่มเมียนมาขี่รถบิ๊กไบค์แซงรถสิบล้อ พุ่งท้ายรถกระบะอย่างแรง เสียชีวิตสยอง เพื่อนร่วมทริปเผย เพิ่งจะซื้อรถ และมาร่วมทริปเป็นครั้งแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 พ.ค.) สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนท้ายรถกระบะ มีคนเสียชีวิต ที่ถนนสายป่าโมก-สุพรรณบุรี หมู่ 4 ต.โคกโคเฒ่า ที่เกิดเหตุพบศพชายชาวเมียนมา อายุประมาณ 20 ปี เสียชีวิตสภาพขาทั้งสองข้างหักหลายท่อน นอนหงายจมกองเลือดอยู่กลางถนน
ห่างกันประมาณ 71 เมตร มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 8386 อ่างทอง จอดอยู่ไหล่ทาง สภาพมุมกระบะด้านซ้ายมีรอยถูกชนพังยุบ ไฟท้ายแตก ยางหลังด้านซ้ายแตก
ที่ริมถนนมีหมวกกันน็อกสีแดง สภาพแตกเสียหายตกอยู่ และที่ดงหญ้าข้างทางฝั่งตรงข้ามขาเข้าป่าโมก พบรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อฮอนด้า 650 ซีซี หมายเลขทะเบียน 1678 กาญจนบุรี ล้มตะแคงอยู่ในพงหญ้า สภาพหน้ารถมีรอยชนโช๊คหัก ไฟหน้าแตกพังเสียหายยับเยิน ที่กลางถนนมีเศษชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแตกกระจายตกเกลื่อนพื้น
จากการสอบถาม นายวุฒิพงศ์ อายุ 50 ปี เจ้าของโรงงานถุงคลุมเสื้อ ถุงคลุมเสื้อกันฝุ่น คนขับรถบิ๊กไบค์ตามหลังผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตนได้ขับรถบิ๊กไบค์มาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 20 กว่าคัน มาตามถนนสายดังกล่าวเพื่อไปท่องเที่ยวไหว้พระในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
ส่วนผู้ตายทราบชื่อเล่นว่า นายมังกร อายุประมาณ 20 ปี เป็นแรงงานชาวเมียนมา ทำงานเป็นคนงานเก็บของอยู่ที่ตลาดดีดี อำเภออุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่งจะซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คันเกิดเหตุเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ได้มาเข้ากลุ่มร่วมทริปเดินทางไปไหว้พระและท่องเที่ยว ที่ จ.กาญจนบุรี เป็นครั้งแรก
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถอยู่ด้านหน้า ส่วนตนขับตามหลัง เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีรถบรรทุกสิบล้อขับอยู่ด้านหน้าแต่ขับไม่เร็ว ผู้ตายจึงเร่งเครื่องแซงขวาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะพุ่งชนท้ายรถกระบะที่จอดเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อรอเลี้ยวอยู่เลนขวาอย่างแรง ทำให้ทั้งรถกระบะ รถจักรยานยนต์ และผู้ตายกระเด็นไปคนละทาง
ส่วนสาเหตุเชื่อว่าผู้ตายไม่ชำนาญและไม่มีทักษะการขับรถบิ๊กไบค์ เนื่องจากไม่เคยผ่านการอบรมการขับรถบิ๊กไบค์ และไม่มีประมีประสบการณ์การขับรถเดินทางไกลจึงเกิดเหตุสลดขึ้น
ด้าน นายณรงค์ อายุ 53 ปี คนขับรถกระบะบ้านอยู่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับพาญาติออกจากบ้าน กำลังมารับญาติอีก 1 คน ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเพื่อไปหาหมอ ขณะที่ตนจอดรอรถว่างเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยไปรับญาติ ระหว่างนั้นได้เสียงกลุ่มรถบิ๊กไบค์หลายคันวิ่งตามกันมา จู่ๆ มีเสียงดังโครมดังสนั่นที่ท้ายรถของตนอย่างแรง จนรถของตนกระเด็นไปอยู่ข้างทาง เห็นร่างของผู้เสียชีวิตและจักรยานยนต์กระเด็นไปไกลคนละทาง
หลังเกิดเหตุมีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุพากันออกมาดูเพื่อช่วยเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เคราะห์ดีที่ตนและญาติผู้หญิงที่มาด้วยกันไม่ได้รับอันตราย
ขณะที่ พ.ต.ท.วัฒนา แก้วเจริญ รองผู้กำกับสอบสวน เจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าคนตายได้ขับรถตามหลังรถบรรทุกสิบล้อแล้วเร่งเครื่องแซงขวา โดยไม่ทันระวังว่าที่เลนขวามีรถจอดให้สัญญาณไฟเลี้ยวขวาอยู่ จึงพุ่งชนท้ายรถที่จอดรอเลี้ยวอย่างแรง เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เกิดเหตุทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ที่ชันสูตรศพ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างผวาเชื้อไวรัสโควิด-19 และได้สวมชุดป้องกันอย่างแน่นหนา รวมทั้งมีการฉีดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทั้งคนทั้งของใช้ทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ตายอีกด้วย