เปิดวีรกรรม “แก๊งตังค์ไม่ออก” ฆ่า-ฟัน-รุมโทรม ไม่กลัวกฎหมาย จนชาวบ้านเอือมระอา
กลายเป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญคนไทย หลังเยาวชนชาย 5 คนก่อคดีฆาตกรรม “ป้าบัวผัน” อย่างอุกอาจและรุนแรง ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ต่อมามีรายงานว่า 2 ใน 5 เยาวชนเป็นลูกชายตำรวจในพื้นที่ และประชาชนก็เริ่มตั้งคำถามว่าทำไมตำรวจจึงจับกุม “ลุงเปี๊ยก” ซึ่งไม่ใช่ผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง และกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาพูดความจริง พร้อมเอาผิดกับเยาวชนผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
จับตาคดี “ป้าบัวผัน” สะเทือนขวัญ 5 โจ๋รุมทำร้าย จนเสียชีวิต ก่อนนำไปทิ้งสระน้ำ
เปิดไทม์ไลน์ พลิกคดี “ป้าบัวผัน” สังคมเอะใจจับผัวเป็นแพะ สู่หลักฐานโยงฆาตกรตัวจริง!
เปิดแชต 5 โจ๋ทรชน สารภาพกับรุ่นพี่ฆ่าป้าบัวผัน บอกชัดเด็ก 14 ลูกตำรวจเป็นคนเริ่ม
ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เยาวชนกลุ่มนี้กระทำการอุกอาจ เพราะเพจดังอย่าง “อีซ้อขยี้ข่าว” ได้ออกมาแฉวีรกรรมของกลุ่มเยาวชนที่มีชื่อว่า “แก๊งตังค์ไม่ออก” ซึ่งสร้างความวุ่นวายให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มีคดีค้างเก่าหลายคดี แต่ก็รอดมาได้เพราะมีพ่อเป็นตำรวจ แล้วแก๊งตังค์ไม่ออกสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอย่างไรบ้าง Sanook สรุปมาให้แล้ว
เพจดังแฉแก๊งตังค์ไม่ออก
เฟซบุ๊กแฟนเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” ได้ออกมาโพสต์ข้อความบอกเล่าถึงวีรกรรมของกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุฆาตกรรมป้าบัวผัน ระบุว่า
“ความจริงแก๊งลูกตำรวจ มีชื่อแก๊ง ตังค์ไม่ออก หลายคนมีคดีเก่าติดตัว แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าไม่ว่าจะไปสร้างวีรกรรมที่ไหน สุดท้ายก็ใช้ชีวิตกันปกติ ก็คงไม่แปลกถ้าทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษก็จะได้ใจทำผิดซ้ำๆ เพราะผิดแล้วไง พ่อเคลียร์ได้ตลอด
พร้อมแนบภาพถ่าย 2 เหตุการณ์ คือ เหตุการณ์จุดไฟเผาศาลตายาย ในปี พ.ศ.2566 และเหตุการณ์ไล่ฟันวัยรุ่นเสียชีวิต ในปี พ.ศ.2565
จุดไฟเผาศาลตายาย
อ้างอิงจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานกรณีคดีเผาศาลตายาย โดยระบุว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ทำร้ายชายไร้บ้านที่อยู่บริเวณใกล้กับศาล พร้อมกับเอามีดฟันที่เอวจนบาดเจ็บ ขณะที่ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ กลุ่มวัยรุ่นก็ได้ก่อเหตุเผาศาลตายาย กระทั่งชาวบ้านได้กลิ่นไหม้ จึงรีบเรียกรถดับเพลิง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ วัยรุ่นกลุ่มนี้ก็อ้างว่าพวกตนเป็นพลเมืองดีมาช่วยดับไฟ
ฟันคนตาย
รายงานข่าวของสำนักข่าวสยามรัฐ ระบุเหตุการณ์วัยรุ่น 2 กลุ่มทะเลาะกันหลังไปเที่ยวงานเทศกาลในพื้นที่ ก่อนจะก่อเหตุไล่ฟันกัน จนมีเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บสาหัส 2 ราย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2565
เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อรัญประเทศ สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนั้นได้ 3 คน อายุระหว่าง 14 – 15 ปี พร้อมตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ก่อเหตุไปฝากขังที่สถานพินิจจังหวัดชลบุรีเป็นที่เรียบร้อย
สร้างความรบกวนให้ชาวบ้าน
ชาวบ้านในพื้นที่ยังได้ออกมาบอกเล่าวีรกรรมของแก๊งตังค์ไม่ออกอีกว่า เป็นแก๊งที่ชอบแว้นรถมอเตอร์เสียงดังรบกวนชาวบ้าน นอกจากนี้ กลุ่มวัยรุ่นยังเคยก่อเหตุขโมยของในร้านค้า เวลารวมตัวกันก็ถือมีด สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่ บางครั้งก็ต้มน้ำกระท่อมดื่ม และชอบรวมตัวกันในเวลากลางคืน
ไม่เพียงเท่านั้น เยาวชนในแก๊งตังค์ไม่ออกยังเคยพูดจาข่มขู่ชาวบ้านรายหนึ่ง ว่าหากไม่อยู่บ้านก็จะมาจุดไฟเผาบ้าน ทำให้ชาวบ้านรู้สึกหวาดกลัวและหวาดระแวงเยาวชนกลุ่มนี้มากกว่าเดิม
ทำร้าย LGBTQ+
หลังจากนั้น “กัน จอมพลัง” เจ้าของร้านขาย กระดาษไข กระดาษไขรองอบ ก็ได้นำคลิปของเยาวชนในแก๊งออกมาเปิดเผย โดยเป็นคลิปของเยาวชนที่รุมทำร้ายป้าบัวผัน เข้าไปคุยกับ LGBTQ+ รายหนึ่ง วัย 36 ปี ก่อนจะทำร้ายร่างกายด้วยการตบที่ใบหน้าหลายครั้งจนล้มลงกับพื้น ซึ่งกัน จอมพลัง เป็นคนที่พาผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่
รุมโทรมเยาวชนหญิง
อีกหนึ่งกรณีร้ายแรงคือ กรณีของเยาวชนหญิงวัย 12 ปี ที่ระบุว่าเคยโดนแก๊งตังค์ไม่ออกข่มขืน เหตุเกิดขึ้นก่อนหน้ากรณีของป้าบัวผันประมาณ 1 เดือน แต่เยาวชนหญิงไม่กล้าออกมาเปิดเผย เนื่องจากกลัวเยาวชนแก๊งนี้ ที่มีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 20 คน และมีอาวุธปืนติดตัว ซึ่งกัน จอมพลัง ก็ได้พาเยาวชนผู้เสียหายคนดังกล่าวเข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เช่นกัน
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวีรกรรมรุนแรงของกลุ่มแก๊งตังค์ไม่ออก ถือเป็นพฤติกรรมของเยาวชนที่สร้างความตกใจให้กับคนในสังคมเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในสังคมออนไลน์ ถึงขนาดมีการเรียกร้องให้ “ยกเลิกกฎหมายปกป้องเยาวชน” ซึ่งยังคงมีการถกเถียงกันของชาวเน็ตอยู่ในตอนนี้ ซึ่งเราก็คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดสำหรับคดีของป้าบัวผัน เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับเธอ ขณะเดียวกัน สังคมก็อาจจะต้องหันกลับมาถอดบทเรียนเพื่อหาทางแก้ไขพฤติกรรมความรุนแรงของเยาวชน หรือหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก