ทนายบ้านอากู๋ แจงผู้ตายโดนคดีบุกรุก ไม่ใช่ครอบครองปรปักษ์ โต้ปมใช้สื่อกดดัน
ทนายบ้านอากู๋ แจงผู้ตายคือ 1 ใน 5 ที่โดนคดีบุกรุก แต่ไม่เกี่ยวคดีครอบครองปรปักษ์ โต้ทนายคู่กรณี ไม่ได้ใช้สื่อกดดัน
จากกรณี น.ส.ภานุมาศ เป็น 1 ใน 5 เพื่อนบ้านบุกรุกบ้านอากู๋ ก่อเหตุจบชีวิตตัวเองในห้องน้ำบ้านพัก หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา เมื่อช่วงเช้า วันนี้ (26 ก.พ.) หลังจากสามีพบว่าภรรยาทำร้ายใช้ผ้าผูกคอตัวเองในห้องน้ำ พยายามช่วยเหลือทำ CPR แล้ว แต่ไม่เป็นผล
ด่วน! เพื่อนบ้านคู่กรณียึดบ้านอากู๋ อ้างครอบครองปรปักษ์ ผูกคอจบชีวิตตัวเอง
ล่าสุด วันนี้ (26 ก.พ.) ที่ สน.คันนายาว นางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง อดีตเจ้าของร้านขาย เครื่องรัดปากถุง เครื่องรัดถุงผัก เดินทางมาเพื่อติดตามสถานการณ์โดยมีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนเองเดินทางมาที่ สน. ในครั้งนี้เนื่องจากได้มีการพูดคุยกับทางลูกความทราบว่าทางคู่กรณีมีการผูกคอเสียชีวิต ซึ่งในส่วนของลูกความตนเองก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองจึงเดินทางมาเพื่อสังเกตการณ์และรายงานผลให้กับทางลูกความทราบ
สำหรับตัวคุณภานุมาศ ผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ เป็น 1 ใน 5 ผู้ต้องหา ที่ถูกทางเจ้าของบ้านตัวจริงซึ่งเป็นลูกความของตนเอง แจ้งฟ้องข้อหาบุกรุก ในคดีแรก 17 กันยายน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคู่กรณีฟ้องครอบครองปรปักษ์ กับลูกความตนเอง และทึ่ผ่านมาตัวผู้ตายก็ไม่เคยเข้าไกล่เกลี่ยกับทางทนายเดชาหรือตนเอง
โดยคดีนี้หากเรียงตามลำดับเกิดขึ้นหลังจากที่ทางเจ้าของบ้านตัวจริง มีการแจ้งฟ้องห้ามผู้ต้องหาบุกรุก โดยมีตัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งในคดีนี้มีการนัดเจรจากันที่ สน. แต่ตอนนั้นไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเสียหายได้จึงยุติการดำเนินการไป และมีการส่งมอบตัวบ้านคืนพร้อมยอมรับข้อหา
ต่อมาลูกความของตนเองที่เป็นเจ้าของบ้านตัวจริงได้รับหมายศาลว่ามี 1 ในผู้ต้องหาในคดีบุกรุกแรก ยื่นฟ้องต่อศาลมีนบุรีเพื่อครอบครองปรปักษ์บ้านดังกล่าว ซึ่งตนเองในฐานะทนายความเห็นว่ากลุ่มคู่กรณียังไม่สามารถดำเนินการฟ้องครอบครองปรปักษ์ได้ เพราะบ้านมีการส่งมอบคืนเป็นที่เรียบร้อย และไม่ได้มีการครอบครองครบตามเงื่อนไข รวมถึงไม่ได้มีการครอบครองไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการพักอาศัยแต่อย่างใด