หนุ่มใหญ่ช้ำ แชร์อุทาหรณ์สอนใจ “สท.หญิง” ขอยืมชื่อซื้อรถ สุดท้ายกลายเป็นคนไร้บ้าน

อุทาหรณ์สอนใจ หนุ่มเชียงใหม่สุดช้ำ สท. ขอยืมชื่อซื้อรถ สุดท้ายเบี้ยวค่างวดถูกศาลสั่งบังคับคดีขายบ้านพร้อมที่ดิน ครวญตัวเองพร้อมแม่วัย 80 ต้องไร้ที่อยู่เพราะความไว้ใจ วอนคู่กรณียื่นมือช่วยเหลือก่อนกลายเป็นคนไร้บ้าน

วันที่ 24 มิถุนายน 2567 นายสุธรรม อายุ 46 ปี ชาวอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นำเอกสารร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ระบุเดือดร้อนหนักกำลังจะกลายเป็นคนไร้บ้าน หลังจากถูกนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งยืมชื่อไปเช่าซื้อรถกระบะ สุดท้ายไม่ยอมจ่ายค่างวดจนถูกไฟแนนซ์ฟ้อง ศาลสั่งบังคับคดีขายบ้านพร้อมที่ดินสมบัติชิ้นสุดท้าย แม่วัย 80 เครียดหนักนอนไม่หลับมาเป็นเดือน ถุงตาข่ายพลาสติก ถุงตาข่ายใส่ส้ม

นายสุธรรม เปิดเผยว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไปในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด รู้จักกับหญิงคนหนึ่งซึ่งปัจจุบันเป็น สท.ในเทศบาลตำบลแห่งหนึ่ง ที่มักจะจ้างให้ไปทำงานอยู่เป็นประจำ ต่อมาในปี 2561 หญิงคนนี้ได้มาขอยืมชื่อไปเช้าซื้อรถยนต์กระบะ ด้วยความไว้ใจและเชื่อใจจึงยอมไปทำสัญญาเช่าซื้อกับไฟแนนซ์ให้ ยอดเงินทั้งหมดประมาณ 7 แสนบาท เป็นการเช่าซื้องวดละ 7,939 บาท จำนวน 96 งวด

หลังจากผ่อนไปได้ประมาณ 1 ปี เริ่มผ่อนไม่ไหว สท.คนดังกล่าวได้มาขอให้ไปรีไฟแนนซ์เพื่อลดจำนวนค่างวด ตนเองก็ยอมไปทำให้ แต่ปรากฏว่ารีไฟแนนซ์ใหม่ก็จ่ายไปเพียงสามงวด หลังจากนั้นก็ไม่จ่ายอีก จนกระทั่งเดือนธันวาคม 2565 ถูกไฟแนนซ์ยึดรถฟ้องคดี โดยมีหมายศาลมาถึงที่บ้าน เมื่อนำหมายไปให้ สท.คนดังกล่าวได้บอกว่าไม่ต้องไปศาล เดี๋ยวจะดำเนินการเองทั้งหมด ด้วยความที่ไม่รู้เรื่องกฎหมายและไม่เคยโดนฟ้องมาก่อน ตนเองจึงไม่ไปศาลตามที่บอกมา

หลังจากนั้นในเดือน ก.พ. 2567 ได้มีหมายบังคับคดีมาถึงที่บ้าน แจ้งว่าบ้านพร้อมที่ดินเนื้อที่ 90 ตารางวา ถูกศาลสั่งขายทอดตลาดเพื่อบังคับชำระหนี้ที่ค้างไว้กับไฟแนนซ์เป็นเงิน 679,696 บาท และค่าขาดประโยชน์อีก 99,000 บาท ทำให้ตนเองและแม่ตกใจแทบเป็นลม เพราะคิดว่าเรื่องนี้ สท.ได้จัดการแก้ปัญหาให้แล้ว เมื่อแจ้งไปยัง สท.คนดังกล่าว ก็บอกว่าจะให้ไปทำสัญญานิติกรรมกู้ยืมเงิน อำพรางว่าให้ตนเองเป็นลูกหนี้เพื่อจะให้ สท.ได้ฟ้องคดียึดที่ดินมาคืน แต่สุดท้ายตนเองก็ไม่ยอมเพราะกลัวเกิดปัญหา

Advertisement
นายสุธรรม บอกว่า จนถึงวันนี้คู่กรณีก็ยังไม่มารับผิดชอบอะไร อ้างว่าไม่มีเงินและมีหนี้สินจำนวนมาก ตนเองและแม่ร้อนใจมากไม่รู้จะพึ่งใคร โดยในวันที่ 4 กรกฏาคม 2567 และวันที่ 25 กรกฏาคม 2567 ก็จะถึงวันนัดขายทอดตลาดนัดที่ 5 และ 6 หากขายได้ตนเองก็จะกลายเป็นคนไร้บ้านทันที เรื่องที่เกิดขึ้นอยากเรียกร้องให้คู่กรณีหาทางมารับผิดชอบโดยเร็วและวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือมาช่วยเหลือ

โดยเรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ อย่าไปใจอ่อนใช้ชื่อตัวเองไปทำนิติกรรมสัญญาให้กับใครอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอาจตกที่นั่งลำบากเสียทั้งบ้านทั้งที่ดินเหมือนกันตนเอง

Previous post สองพี่น้องตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินกว่า 7 ล้านบาท วอนผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
Next post เปิดผลชันสูตรหนุ่ม 19 กระอักเลือดตายในห้องน้ำ รู้สาเหตุพ่อรีบเผาศพทันทีไม่ตั้งสวด