ทลายเครือข่าย Turtle Farm หลอกลงทุนฟาร์มเห็ดทิพย์ บุกยึดทรัพย์กว่า 100 ล้าน!
จับเพิ่มอีก 2 คดีหลอกลงทุนฟาร์มเห็ดทิพย์ Turtle Farm ยึดทรัพย์กว่า 100 ล้าน ยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ 3 ราย มีผู้เสียหายแจ้งความ กว่า 2,702 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,650 ล้านบาท
จากกรณีเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้แถลงผลการทลายเครือข่ายหลอกลงทุน Turtle Farm จับกุมผู้ต้องหาที่ได้หลอกลวงชักชวนประชาชนให้ร่วมลงทุนปลูกเห็ด กัญชา พืชกระท่อม เลี้ยงผึ้ง ฯลฯ โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยอ้างว่าผู้ที่เข้าร่วมลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ต่อมาผู้ต้องหากับพวกอ้างเหตุขัดข้องต่างๆ ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้เสียหายได้ ผู้เสียหายจึงแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 9 ราย
ผลการปฏิบัติสามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 4 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 5 ราย และสามารถอายัดเงินในบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกว่า 72 บัญชี อายัดเงิน ได้กว่า 17.5 ล้านบาท นั้น ต่อมาในระหว่างเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พนักงานร้าน ถุงกระดาษคราฟท์ ถุงกระดาษเคลือบมัน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย รวมจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี 3 ราย
กระทั่งจากการสืบสวนขยายผลพบว่า บริษัทแห่งหนึ่ง ถูกว่าจ้างให้ทำการโฆษณา สร้างภาพลักษณ์ สร้างความน่าเชื่อถือ และหลอกลวงประชาชนให้มาร่วมลงทุน โดยได้รับเงินจากกลุ่มผู้ต้องหากว่า 72 ครั้ง รวมเป็นเงิน 134 ล้านบาท พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญามีนบุรีขออนุมัติศาลออกหมายค้นสถานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 จุด ได้แก่
บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดของกลาง 57 รายการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์, สมุดบัญชีธนาคาร, บัตรกดเงินอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับทองคำ, นาฬิกา, โฉนดที่ดิน และเงินสด จำนวน 10.6 ล้านบาท
บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงคลองสามวา เขตสามวาตะวันตก กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ตู้นิรภัยบรรจุเงินสด จำนวน 88 ล้านบาท และรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ (Porsche) สีส้ม รุ่น Boxster PDK 1 คัน รวมผลการตรวจค้น ทั้ง 2 จุด สามารถตรวจยึดของกลางกว่า 56 รายการ เงินสดรวม 98.6 ล้านบาท
ปัจจุบัน มีผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com กว่า 2,702 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,650 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ผู้ต้องหาที่หลบไปนอกราชอาณาจักรนั้น พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือติดตามแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหาเพื่อประกอบคำร้องขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนและคำร้องขอออกหมายตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) ไปยังกองการต่างประเทศแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งจะได้ติดตามประสานงานนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การปฏิบัติการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ยังคงมุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล เร่งดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม คำนึงถึงความเดือดร้อน และอำนวยความยุติธรรมของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ